icon member

ซีรีส์เลือดมังกร : กระทิง

ตอนที่ 9

ถ้อยคำตัดรอนของธาม ทำให้ย่าหยาเจ็บเหมือนถูกกระชากหัวใจออกจากตัว น้ำตาไหลพรากด้วยความสะเทือนใจที่ต้องทำร้ายใจตัวเอง และทรมานหัวใจกระทิงหนุ่ม

แต่ถึงกระนั้น...ภารกิจยิ่งใหญ่ชำระแค้นให้พ่อแม่ก็ต้องดำเนินต่อ ย่าหยาจำต้องปั้นหน้าเศร้า นึกถึงธามแต่ดันโกหกเล้งหน้าตายว่าพี่ชายแท้ๆซึ่งพรากจากกันมานานโทร.หา เธอเลยต้องออกไปพบ

“หยาหาเขาไม่เจอ เราไม่ได้เจอกันมานานแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่...อาจไม่ได้เจอกันอีกเลยก็ได้”

เล้งตามมารยาหญิงไม่ทัน โอบกอดคู่หมั้นสาวด้วยความสงสารจับใจ โดยไม่รู้เลยว่าย่าหยาขยะแขยงสัมผัสของเขามากแค่ไหน และได้แต่ภาวนาให้ภารกิจล้างแค้นนี้สำเร็จโดยเร็วที่สุด

ค่ำคืนมืดมิดของธามกับย่าหยาผ่านพ้นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะธามนั่งจ้องรูปพ่อแม่กับชลธีแน่นิ่ง ราวกับว่าทุกคนยังมีชีวิต ไม่ได้จากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับเหมือนเช่นตอนนี้ แต่ไม่ว่าจะข่มใจแค่ไหน ธามก็สลัดความเหงา ความผิดหวังและความอ้างว้างออกไปไม่พ้น...และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะทำได้

เช่นเดียวกับย่าหยา...นั่งจมจ่อมบนเตียงคนเดียวในห้องพัก ในมือถือผ้าพันคอของธาม ราวกับต้องการสื่อความในใจถึงเขา ถ้อยคำตัดพ้อต่อว่าของเขายังลอยวนเวียนในหัว

“ขอบใจที่แทงกันซึ่งๆหน้า รู้ไว้ว่ามันทิ่มเข้ากลางใจฉันเต็มๆ”

ย่าหยาน้ำตาไหล รู้ดีว่าเขาต้องเจ็บปวดแค่ไหนเรื่องการแต่งงานระหว่างเธอกับเล้ง แต่เธอก็ถอยไม่ได้แล้ว แผนการที่เตรียมมานานต้องเดินหน้า...และไม่ว่าใครก็ขวางไม่ได้!

แต่ถึงจะช้ำใจเรื่องย่าหยาแค่ไหน ธามก็ไม่ลืมงานสำคัญ ปล่อยทองปลอมประทับตราร้านของเล้งเข้าตลาดมืด โดยมีจิวคอยช่วย และมองตามด้วยความเป็นห่วงตลอด เพราะแผลบนตัวเจ้านายหนุ่มทำท่าจะไม่ดีขึ้น

อีกคนที่ส่งข่าวและช่วยพวกธามห่างๆก็คือเฉียง แต่ทุกอย่างก็ไม่ง่าย เพราะทั้งเฉียงและโบตั๋นถูกพวกเล้งจับตามองตลอด ด้วยยังไม่ไว้ใจ กลัวเอาความลับไปบอกพวกธาม อย่างดีที่สองผัวเมียจะทำได้ คือส่งข่าวผ่านจิว โบตั๋นถอนใจหนักหน่วง แม้จะทำใจมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็อดรู้สึกผิดไม่ได้กับวีรกรรมที่ผ่านมา

“ฉันไม่หวังให้เฮียอภัยฉันแล้ว แต่ฉันอยากให้เฮียยกโทษให้คุณ เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะฉัน”

“ผมอยากอยู่ในสภาพนี้โบตั๋น ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็จะคิดและทำแบบนี้ เพราะอะไรรู้ไหม...เพราะผมรักคุณ ถ้าไม่มีวันนั้น ผมคงไม่ได้อยู่ใกล้คุณขนาดนี้”

น้ำเสียงและแววตาจริงใจของเฉียง ทำให้โบตั๋นน้ำตาคลอด้วยความซาบซึ้งใจ สองผัวเมียคงโผกอดกันไปแล้ว ถ้าฮกจะไม่โผล่มาตามเฉียงไปพบเล้งเสียก่อน โบตั๋นมองมาอย่างเข้าใจ อาสาทำมื้อเย็นเตรียมไว้ให้เขากลับมากิน เฉียงพยักหน้ายิ้มรับ สัญญาด้วยความเต็มใจ... ยินดีมากที่บรรยากาศระหว่างเขากับโบตั๋นเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

ooooooo

ขณะที่ธามหมกมุ่นกับแผนการป้ายความผิดให้เล้งเป็นพ่อค้าทองปลอม เหมือนอย่างที่พ่อแม่เขาเคยได้รับเมื่อเจ็ดปีก่อน ย่าหยาต้องตามติดเล้งไปทุกที่ เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่สวยและหรูหราที่สุดในเมือง แต่สภาพจิตใจหม่นหมองและบอบช้ำเรื่องธาม ทำให้เธอมีท่าทีเหมือนคนซังกะตาย จนเล้งยังอดเป็นห่วงไม่ได้

สายตาสงสัยของเล้งทำให้ย่าหยารู้สึกตัว ปั้นหน้ายิ้มแย้ม ราวกับดีใจเสียเต็มประดาจะได้เป็นเจ้าสาวของเสี่ยใหญ่ แต่ถึงกระนั้น...นักฆ่าหน้าหวานในคราบสาวเสิร์ฟก็ตบตาหยกมณี ซึ่งถูกเล้งเรียกตัวมาแต่งหน้าให้เพื่อถ่ายรูปสำหรับการ์ดงานแต่งไม่ได้ แถมรู้ทันเธออีกต่างหากว่าไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับเล้ง

ย่าหยาถึงกับพูดไม่ออก แต่ไม่ทันแก้ตัว ฮกก็มาตามไปถ่ายรูป หยกมณีเลยต้องละเรื่องคาใจไว้ก่อน และเร่งมือแต่งหน้าแทน ย่าหยาลอบผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก ก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อเห็นหน้าธาม แขกรับเชิญพิเศษที่เล้งเชิญมาเป็นพยาน พร้อมพรรคพวกค้าทองคนอื่นๆ

เล้งแสยะยิ้มร้ายเมื่อเห็นสีหน้าอึดอัดของธาม “ขอบใจนะอาธามที่สละเวลามาเจอพวกเราทุกคน อั๊วจะแต่งงานทั้งที ก็อยากมีรูปถ่ายกับเพื่อนในวงการเดียวกันเก็บไว้เป็นที่ระลึก จะได้เอาไปประดับในงานด้วย”

คงมีเล้งคนเดียวที่ปลาบปลื้มกับการเจอกันโดยไม่ได้คาดฝัน เพราะทุกคนที่เหลือ โดยเฉพาะย่าหยา ถึงกับต้องกัดฟันข่มความโกรธ ที่ต้องเห็นกระทิงหนุ่มถูกลากมาย่ำยีหัวใจเช่นนี้

ส่วนธามจำต้องตีหน้านิ่งข่มอารมณ์ปวดร้าวในอก ยืนนิ่งถ่ายภาพตามคำขอของเล้ง และทำท่าจะกลับทันทีเมื่อช่างภาพลดมือ แต่เล้งหันมาเห็นเสียก่อน ยิ้มเยาะ ก่อนจะรั้งตัวไว้

“เดี๋ยวอาธาม...ให้เกียรติเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวหน่อยได้ไหม ช่วยเป็นตัวแทนอาเช็ง เพื่อนที่อั๊วรักที่สุดด้วยนะ”

ธามขบกรามแน่น ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแย้ม “เพื่อเพื่อนรักของป๊ากับม้า...ผมยินดี”

กว่าธามจะผละจากเล้งได้ ก็เป็นเวลาเย็นย่ำ จิวตามประกบเหมือนเคย แต่ไม่กล้าซักอะไรมาก ดูท่าเจ้านายหนุ่มจะช้ำแทบกระอักไม่น้อย ที่ถูกหลอกมากระทืบหัวใจต่อหน้าใครหลายคน แต่ถึงจะเจ็บปวดใจแค่ไหน ธามก็ต้องสลัดความรู้สึกส่วนตัวทิ้ง เพราะมีงานสำคัญ พาชานนท์ดักจับทองปลอมของเล้งในคืนเดียวกัน

เวลาเดียวกันที่ฉั่วเทียนเหลา...สุ่ยซึ่งเพิ่งรู้เรื่องงานแต่งระหว่างเล้งกับย่าหยาจากหยกมณีถึงกับอ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อว่าสาวเสิร์ฟหน้าหวานจะลงเอยกับเสี่ยใหญ่กะทันหันแบบนี้ ย่าหยามีสีหน้าลำบากใจ ได้แต่แก้ตัวแกนๆว่าเลื่อนออกไปไม่ได้ เพราะทุกอย่างถูกกำหนดแล้ว สุ่ยไม่ติดใจเรื่องนั้น แต่อยากรู้เรื่องอื่นมากกว่า

“ที่อั๊วสงสัยคือลื้อแต่งงานกับเสี่ยเล้งทำไม ลื้อรักกับเฮียกระทิงไม่ใช่หรือ”

คำถามของสุ่ย พร้อมสายตาคาดคั้นของหยกมณี ทำให้ย่าหยาถึงกับไปไม่ถูก

“ไม่รู้ว่าเหตุผลลื้อคืออะไร แต่ในฐานะพี่สาว...อั๊ว อยากบอกว่าความรักมันไม่ได้เกิดง่ายๆ โดยเฉพาะรักที่เกิดจากเรารักเขา แล้วเขาก็รักเรา อั๊วใช้ชีวิตค่อนชีวิตอยู่กินกับผู้ชายที่อั๊วไม่ได้รัก...มันขมขื่น อั๊วไม่อยากให้ลื้อเป็นอย่างอั๊ว”

หยกมณีพยักหน้าเห็นด้วยกับสุ่ย เอ่ยเสียงอ่อน “เจ๊กับอาอันเคยรักกันมาก แต่มีอันต้องจากกันไกล ตอนนั้นเจ๊เสียใจแทบไม่เป็นผู้เป็นคน จนวันนี้อีกลับมาขอแต่งงาน เจ๊ตอบตกลงทันที ความเจ็บปวดที่ผ่านมาสอนให้เจ๊รู้ว่าอย่ามัวรีรอที่จะมีความสุขกับคนที่เรารักเขา และเขาก็รักเรา”

ท่าทางลังเลของย่าหยา ทำให้สุ่ยต้องสำทับ “คนเราเกิดมาหนเดียวตายหนเดียวนะอาหยา ลื้อทำอะไรมีเหตุผลเพื่อคนอื่นทุกครั้ง ถ้าจะทำอะไรเพื่อตัวเองบ้างสักครั้ง มันผิดมากไหม ลื้อลองถามใจตัวเองดู”

ooooooo

แผนการล่อให้ตำรวจจับทองปลอมของธามเป็นไปอย่างราบรื่น แถมของกลางที่ยึดจากพ่อค้าในตลาดมืด ก็พุ่งเป้าไปที่เล้งตามต้องการอีกต่างหาก ที่เหลือคือเอาหลักฐานมัดตัวไปใส่ไว้ในโรงงานทำทองของเล้งเท่านั้น จิวรับหน้าที่ไปจัดการ โดยมีเฉียงดักรอและช่วยดูต้นทางให้ แผนการทุกอย่างของธามเลยสำเร็จด้วยดี

หลังภารกิจลับช่วยจิวเอาหลักฐานทองปลอมไปใส่ในโรงงานทำทองของเล้งสำเร็จ เฉียงก็แยกกลับมาบ้านพัก เพื่อกินมื้อเย็นกับโบตั๋นตามสัญญา นักร้องสาวดาวรุ่งดีใจมาก ทำท่าจะเอาอาหารไปอุ่นให้ แต่เฉียงก็ยื้อไว้

“ไม่เป็นไรหรอกครับ บางครั้งความอร่อยมันก็ไม่ได้อยู่ที่รสชาติ แต่อยู่ที่ความตั้งใจ ความใส่ใจของคุณทำให้อาหารมื้อนี้อร่อยมาก ผมจะจำไปจนวันตายว่าเคยได้กินอาหารอร่อยอย่างนี้”

โบตั๋นยิ้มปลื้มน้ำตาคลอ “ขอบคุณนะอาเฉียง ที่กลับมากินข้าวกับฉันตามสัญญา”

สถานการณ์ระหว่างเฉียงกับโบตั๋นเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ต่างจากสถานการณ์ของธามกับย่าหยา ที่ใกล้ถึงจุดแตกหัก โดยเฉพาะธาม ช้ำและกระวนกระวายใจมากจนนอนไม่หลับ ต้องแวะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้า ซินแสง้วงผ่านมาเห็นก็อดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ว่ากระทิงหนุ่มทุกข์ใจเรื่องอะไรถึงต้องมาดึกๆดื่นๆเช่นนี้

ธามมีท่าทางอึกอัก ซินแสง้วงดักคออย่างรู้ทัน “ทุกข์จากงานทำให้เราคิดหนักจนไม่มีเวลานอน ทุกข์จากความรักทำให้เราคิดหนักจนไม่อยากนอน ลื้อแบกทุกข์สองอย่างไว้คนเดียวไม่ได้หรอกนะอาธาม”

“ผมกำลังคิดครับ...ว่าถึงเวลาต้องตัดบางสิ่งบางอย่างออกไปจากชีวิต”

“ลื้อรู้ผิดชอบชั่วดี...ลื้อทำได้อาธาม”

ฟากย่าหยา...ทุกข์ทรมานใจไม่แพ้ธาม ถ้อยคำเตือนสติของสุ่ยกับหยกมณียังเวียนวนในหัว ทำให้เธอต้องคิดทบทวนเรื่องงานแต่งกับเล้งอีกครั้ง...หรือเธอจะลองทำตามหัวใจเรียกร้องดูสักครั้ง

ทั้งธามกับย่าหยาต่างก็มีค่ำคืนอันร้าวราน ด้วยคิดไม่ตกจะจัดการเรื่องหัวใจของตนเช่นไร กว่าธามจะตัดใจได้และออกจากศาลเจ้าก็เป็นเวลาย่ำรุ่งของวันถัดมา สวนทางกับย่าหยาที่ตื่นมาปรับทุกข์กับซินแสง้วงแต่เช้า

“พี่ธี...จะกลับมาไหมคะซินแส พี่ธีจะไม่มีวันกลับมาหาหยาใช่ไหมคะ”

“คนตายไปแล้ว ยังไงก็ไม่กลับมา ทำใจสักทีอาหยา ลืมอดีตแล้วอยู่กับความจริงสักที”

คำพูดเตือนสติของซินแสง้วงทำให้ย่าหยาหน้าซีด ใจหายและเสียใจมากที่จะไม่มีโอกาสเจอหรือขอโทษชลธี ทั้งเรื่องความผิดในอดีต และเรื่องเธอปันใจให้ธาม...สุดท้ายเลยต้องไปนั่งระบายอารมณ์กับองค์พระและเทพเจ้า

“ไม่ว่าพี่ธีจะอยู่ที่ไหน โปรดรับรู้ไว้นะคะว่าจันทร์เสียใจ จันทร์อยากขอโทษ อยากชดใช้ความผิดที่จันทร์ทำไว้กับพี่ธี แต่จันทร์ก็...ไม่มีโอกาสแล้ว จันทร์ชดใช้ให้พี่ธีชาตินี้ไม่ได้ จันทร์ขอตามไปชดใช้ในชาติหน้านะคะ ส่วนเรื่องคุณธาม...ในชีวิตนี้จันทร์ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจันทร์จะรักใครได้อีก จันทร์พยายามแล้ว... พยายามจะหนี พยายามจะไม่รักเขา แต่จันทร์...จันทร์อยากจะขออนุญาตนะคะพี่ธี อนุญาตให้จันทร์รักเขานะคะ”

เล้งไม่รู้ว่าใครต้องช้ำหรือทุกข์ทรมานใจแค่ไหนเรื่องงานแต่งของเขากับย่าหยา มัวแตกตื่นเมื่อชานนท์แวะมาหาถึงบ้าน เพื่อขอค้นโรงงานทำทอง เพราะของกลางที่ยึดจากพ่อค้าในตลาดมืดมีตราประทับของร้านเขา

ชานนท์นำกำลังเข้าตรวจค้นโรงงานทำทองของเล้งในสายวันเดียวกัน เสี่ยใหญ่หัวเสียและหงุดหงิดมาก ที่ดูเหมือนสถานการณ์ทุกอย่างจะพุ่งเป้ามาที่เขา เฉียงลอบยิ้มร้าย ก่อนจะแกล้งทำเป็นเดือดร้อน เมื่อพวกตำรวจทำท่าจะเข้าไปค้นโต๊ะทำงานของเสี่ยใหญ่ เล้งต้องปรามให้เงียบ แล้วท้าให้เข้าไปค้น

“แต่ถ้าของอั๊วหาย อั๊วจะประกาศลงหนังสือพิมพ์เลยนะว่าพวกลื้อขโมยของอั๊ว”

คำขู่ของเล้งไม่มีผลใดๆ ชานนท์ส่งสัญญาณให้ลูกน้องไปค้น ก่อนจะได้ยิ้มตาวาว เมื่อพบถุงทองปลอมจริงๆ เล้งถึงกับหน้าถอดสี ยิ่งเห็นตราประทับของตัวเองบนทองพวกนั้น ยิ่งพูดไม่ออก...เป็นไปไม่ได้ อั๊วไม่ได้ทำ!

ooooooo

ธามนั่งรอฟังข่าวจากชานนท์ที่บ้าน และคงหมกมุ่นกับผลงานตัวมากเกินไป เลยไม่ทันรู้สึกว่าย่าหยาแอบเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ถึงกระนั้น...กระทิงหนุ่มก็กลบเกลื่อนท่าทางตื่นตะลึงของตนได้ดี ด้วยการทักทายถากถางอีกฝ่ายว่าคงจะแวะมาแจกการ์ดแต่งงานด้วยตัวเอง

“เอาวางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ ช่วงนี้ฉันงานยุ่ง คงไม่ได้ไปร่วมงาน”

ย่าหยานิ่งเงียบ ไม่ตอบโต้เหมือนเคย สร้างความแปลกใจให้แก่ธามมาก แต่ไม่ทันถาม เธอก็โพล่งขึ้นเสียก่อนว่าเธอเป็นอิสระแล้ว กระทิงหนุ่มนิ่วหน้า ใจเต้นรัวอย่างมีความหวัง แต่ยังท่ามาก แหวกลับเสียงเข้ม

“แล้วเธอเป็นอิสระจากใคร มาหาฉันทำไม อยากทดสอบอะไรฉันอีก หรือแค่มาดูว่าฉันเจ็บใกล้ตายหรือยัง ทำแบบนี้ทำไม ต้องการอะไรกันแน่ย่าหยา”
ย่าหยาถึงกับปากคอสั่น “ฉันไม่ได้ต้องการอะไร ฉันแค่อยากจะบอกคุณว่าฉัน...”

คำว่ารักจะหลุดจากปากเธออยู่แล้ว ถ้าจิวจะไม่โผล่มาขัดจังหวะเพื่อแจ้งข่าวเล้ง ว่าถูกกุมตัวไปโรงพักเรียบร้อยแล้ว ธามเลยรีบผละไปดู โดยมีย่าหยามองตาม พร้อมพึมพำไล่หลัง “ฉันรักคุณ...คุณธาม”

ธามจำต้องสลัดเรื่องย่าหยาออกไปก่อน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเล้งที่โรงพักในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา ชานนท์พยักหน้าทักทาย ก่อนจะขอให้กระทิงหนุ่มช่วยตรวจสอบทองทั้งหมดที่ค้นเจอในโรงงานของเล้ง

“เราให้ช่างพิสูจน์และตัดดูด้านในแล้ว แต่อยากได้ความเห็นจากคนที่ทำธุรกิจนี้ชี้ชัดอีกที”

“ดูตาเปล่าก็รู้ครับว่าทั้งหมดนี่ปลอมแน่นอน ลองถามความเห็นจากเสี่ยเล้งดูก็ได้ เสี่ยจับทองมาพร้อมๆกับป๊าผม เสี่ยรู้ดีว่าทองพวกนี้ปลอม...จริงไหมครับ ว่าแต่ผู้กองได้มาจากไหน”

จบคำก็ลอบยิ้มร้าย ก่อนจะตีหน้าเป็นเดือดเป็นแค้นแทนเล้ง ที่ต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะมีหลักฐานมัดตัว เล้งโกรธจนควันออกหู แหวลั่นโรงพักแบบไม่เกรงใจใคร

“อั๊วถูกใส่ร้าย ต้องมีใครสักคนต้องการให้อั๊วเสียชื่อเสียง แอบขโมยตราร้านอั๊วออกมา”

“แต่ของกลางส่วนหนึ่งอยู่ในโรงงานเสี่ย ยังไงเสี่ยก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัย คดีนี้เป็นทั้งคดีอาญาและแพ่งนะครับ”

“อั๊วเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ถ้าลื้อจะยัดข้อหาให้อั๊ว ลื้อก็ไปหาหลักฐานมาอาชานนท์!”

ธามลอบยิ้มสะใจ ก่อนจะตีหน้าเคร่ง ทำเป็นเดือดร้อนแทนเล้ง “เป็นไปได้ไหมครับที่เสี่ยเล้งจะถูกใส่ร้ายเหมือนที่พ่อผมเคยโดน เสี่ยจำเรื่องที่คนชั่วๆมันใส่ร้ายป๊าผมว่าทำทองปลอมขายเมื่อเจ็ดปีที่แล้วได้ใช่ไหมครับ”

สายตาคมกริบของธามจ้องมาอย่างไม่ลดละ เล้งสำเหนียกได้ถึงบางอย่างที่ไม่ปกติ แต่ไม่กล้าโวยวายเพราะกลัวจะเป็นที่สงสัย ได้แต่ปล่อยให้ธามแยกจากไปพร้อมสีหน้าสะใจมาก ส่วนตัวเองอาละวาดฟาดหัวฟาดหางกับลูกสมุน ที่ต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีค้าทองปลอมโดยไม่ทันตั้งตัว เกี๊ยงมั่นใจว่าธามอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ โดยมีฮกสนับสนุน เพราะกระทิงหนุ่มน่าจะมีแรงจูงใจจากเรื่องในอดีตที่พ่อแม่ถูกใส่ร้าย

เล้งกัดฟันกรอด จัดแจงสั่งให้คนสนิทไปตามอิก ให้หาทางเก็บธาม เกี๊ยงรีบผละไปตามคำสั่ง แต่ไปได้ไม่ไกล ก็สวนทางกับย่าหยา ซึ่งแอบตามธามมาเพื่อเผชิญหน้ากับเล้ง และค้นหาความจริง

แววตาคาดคั้นของคู่หมั้นสาว ทำให้เล้งต้องขยับตัว อย่างอึดอัด

“ฉันยอมรับว่าไม่ใช่คนดีอะไรนักหนา ที่ผ่านมาทำชั่วมาก็เยอะ แต่เรื่องทองปลอมครั้งนี้ ฉันยืนยันว่าไม่ได้ทำ”

ย่าหยาข่มอารมณ์พลุ่งพล่าน ย้อนถามเสียงเรียบ “ไม่ได้ทำครั้งนี้ แต่ครั้งอื่นทำหรือเปล่าคะ”

“บางครั้งความจำเป็นก็บังคับให้เราทำอะไรหลายๆอย่างในชีวิต”

“ความจำเป็น...หรือความอยากได้ที่เกินความจำเป็นคะ”

“จะเรียกอะไรก็แล้วแต่ มันทำให้ฉันเป็นเสี่ยเล้ง ไม่ใช่ไอ้เล้งที่ไม่มีที่ซุกหัวนอนเหมือนเมื่อสามสิบปีก่อน ชีวิตที่ไม่มีจะกินสอนให้ฉันรู้ว่าเงินสำคัญที่สุด...เงินซื้อได้ทุกอย่าง บ้าน รถ อำนาจ บารมี ลูกน้องและเพื่อน”

“เงินซื้อความรัก ความจริงใจไม่ได้ค่ะ”

“ฉันรู้...ฉันถึงแลกความรักความจริงใจจากเธอ ด้วยความรักความจริงใจทั้งหมดที่ฉันมีอาหยา”

ย่าหยาแทบสะกดความสะอิดสะเอียนไว้ไม่ไหว แต่ต้องพยายามฝืนยิ้ม “ฉันเชื่อเสี่ยค่ะ”

เล้งยินดีมาก มั่นใจว่าจะฝากชีวิตที่เหลือไว้กับเธอคนนี้ ส่วนย่าหยาก็ฉวยโอกาสนี้ ทำทีเป็นขอให้เขาเดินไปซื้อขนมให้ ลับหลังก็คว้าปืนมาเล็ง แต่ไม่ทันเหนี่ยวไก กระสุนปืนปริศนาจากทิศทางตรงข้ามก็พุ่งมาหาเธอเสียก่อน!

ธามนั่นเอง หลบซ่อนตัวในมุมมืด และชักปืนมายิงขวางไว้ตามที่เคยลั่นวาจา ไม่อยากให้เธอล้างแค้นเล้งถึงตาย ก่อนที่เขาจะได้พาไปขอขมาพ่อแม่ ย่าหยาได้แต่มองมาด้วยสีหน้านิ่งสงบ ไม่ชอบใจนัก แต่ไม่พลาดจะตีหน้าตื่น หลอกเล้งว่ามีคนลอบยิง โดยไม่ปริปากบอกเล้งสักคำว่ากระสุนปืนปริศนานั้นมาจากใคร...

ooooooo

แต่ถึงจะไม่รู้แน่ว่าเป็นฝีมือธามหรือไม่ เล้งก็ปักใจไปแล้วว่าต้องเป็นฝีมือกระทิงหนุ่ม แถมโกรธหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะย่าหยาพลอยโดนลูกหลงไปด้วย เมื่ออิกมารายงานตัว เลยจัดการส่งไปถล่มธามถึงงานแถลงข่าว ซึ่งจะถูกจัดที่สมาคมพ่อค้าทองในวันรุ่งขึ้น โดยมีเฉียงตามประกบเพื่อกันพลาดอีกที

เฉียงต้องรับคำสั่งเล้งแบบเลี่ยงไม่ได้ รู้ดีว่าเป็นแผนเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ว่าจะใจถึงพอจะฆ่าอดีตเจ้านายหนุ่มหรือไม่ โบตั๋นเป็นเดือดเป็นร้อนแทนผัว เข้าใจและเห็นใจเขาดีว่าไม่อยากทรยศธามไปมากกว่านี้ แต่เรื่องสำคัญกว่าคือเฉียงมั่นใจว่าเรื่องอาจจบไม่สวยและตัวเขาเองก็อาจถูกเก็บด้วย หากว่าอิกเก็บธามได้สำเร็จ

โบตั๋นหน้าซีด ใจไม่ดี กลัวผัวไม่ได้กลับมา เฉียงต้องปลอบให้ทำใจและตั้งสติ

“ฟังนะโบตั๋น คุณเตรียมเก็บข้าวของที่จำเป็นไว้ ถ้าผมไม่กลับมา คุณต้องหนีเอาตัวรอด คุณต้องไปหาเฮีย”

“แต่...คุณจะกลับมาหาฉันใช่ไหม”

“ใจผมอยู่กับคุณ ถ้าไม่ตาย...ยังไงผมก็ต้องกลับมา”

โบตั๋นน้ำตาคลอ โผกอดผัวแน่น กว่าครู่ใหญ่จึงผละออก แล้วดึงเชือกสีดำคล้องเหรียญโลหะศักดิ์สิทธิ์จากคอสวมให้เขา พร้อมคำอวยพรให้แคล้วคลาดผ่านพ้นอุปสรรคและภยันอันตรายทั้งปวง เฉียงซาบซึ้งน้ำใจเมียมาก ดึงเธอมากอดอีกครั้ง ก่อนจะจากไปพร้อมกำลังใจ เต็มเปี่ยม... ภารกิจครั้งนี้ เขาต้องรอดปลอดภัยกลับมาแน่ๆ

แต่คำอธิษฐานของเฉียงคงไปไม่ถึงเทพเจ้า เพราะทันทีที่ลับร่างเขา โบตั๋นก็แอบได้ยินเล้ง สั่งให้อิกตามเก็บเขาอีกที หลังจากเก็บธามเรียบร้อยแล้ว เพราะคงหมดประโยชน์ นักร้องสาวดาวรุ่งไม่รอช้า ผลุนผลันออกจากบ้านไปขอความช่วยเหลือ แล้วที่แรกที่นึกถึงก็คือฉั่วเทียนเหลา!

สุ่ยเป็นคนแรกที่รู้ แตกตื่นโวยวายจนทุกคนเริ่มใจไม่ดี ห่วงทั้งธามและเฉียง โบตั๋นได้แต่มองมาด้วยท่าทางหวั่นวิตก สาวใหญ่เจ้าของร้านเลยตัดสินใจโทร.ขอความช่วยเหลือจากธาม แต่ก็ดันไม่มีใครรับสาย สองสาวเลยเปลี่ยนใจโทร.หาชานนท์แทน แต่เมื่อหันมาขอความเห็นจากย่าหยา สาวเสิร์ฟหน้าหวานก็หายตัวไปแล้ว...

งานแถลงข่าวเรื่องทองปลอมของเล้งถูกจัดที่สมาคมพ่อค้าทองคำในเยาวราชตามกำหนด เสี่ยใหญ่ถูกโจมตีอย่างหนักจากนักข่าว เพราะมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนายากจะหลุดพ้นจากข้อกล่าวหา แต่ถึงกระนั้น... เสี่ยใหญ่ก็พยายามใจเย็นอธิบาย แต่ก็ไม่มีใครฟังจนเริ่มจะหมดความอดทน

ธามแสยะยิ้มร้ายก่อนจะตีหน้าซื่อออกตัวแทนเล้งในฐานะเพื่อนร่วมวงการ แต่วาจากลับเชือดเฉือนไปถึงใจอีกฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องทองปลอม ซึ่งเชื่อกันว่ามีวายร้ายบงการเบื้องหลังมานานแล้ว

“เพราะฉะนั้นผมถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เป็นโอกาสดีที่เราจะช่วยกันกระชากหน้ากากคนชั่วให้สังคมได้รับรู้ และไม่ปล่อยให้คนพวกนี้ลอยนวลอีกต่อไป ที่สำคัญ...เราต้องการยืนยันกับทุกท่านว่าทองในย่านนี้เป็นทองคำแท้ ทางสมาคมจะออกใบรับประกันสินค้าให้ทุกชิ้น เพื่อความสบายใจของทุกท่านครับ”

เล้งขบกรามแน่นด้วยความคับแค้นใจที่โดนเด็ก เมื่อวานซืนอย่างธามลูบคมซึ่งๆหน้าในงานแถลงข่าว

ที่เขาควรจะเป็นจุดสนใจที่สุด แต่เสี่ยใหญ่ก็ไม่ต้องรอนาน เพราะทันทีที่ผละออกจากสมาคม อิกกับพวกก็เริ่มกราดกระสุนใส่ฝูงคนไม่ยั้ง แต่มีเพียงเป้าหมายเดียวก็คือธามเท่านั้น

ธามกับจิวรีบแยกตัวออกจากกลุ่มนักข่าวไม่อยากให้ใครโดนลูกหลง ก่อนจะตัดสินใจแยกกันหนี เพราะดูท่าไปด้วยกันอาจเป็นเป้านิ่งได้ง่ายกว่า เล้งเห็นธามยังมีชีวิต เลยส่งฮกไปช่วยอิกโดยมีเฉียงตามประกบ แต่ไม่วายถูกอิกตลบหลัง ส่งลูกน้องตามไปเก็บตามคำสั่งเล้งอีกที

จิวผ่านมาช่วยเฉียงเอาไว้ได้ ส่วนธามเกือบเอาชีวิตไปทิ้งในตรอกเปลี่ยว ถ้าจะไม่มีไอ้โม่งปริศนาตามมาช่วยยิงต่อสู้กับพวกอิก และพาหนีลงน้ำได้ทันเวลา!

ooooooo

ไอ้โม่งปริศนาก็คือย่าหยา ธามอึ้งไปครู่ใหญ่ กว่าจะตั้งสติได้ แล้วพาเธอไปคุยที่บ้าน ส่วนเล้งถูก ชานนท์สอบสวนอย่างหนัก ในฐานะพยานในเหตุการณ์ยิงกันในสมาคม เสี่ยใหญ่โวยวายกลบเกลื่อน แต่ดูจะไม่ได้ผล แถมถูกขู่จะส่งคนไปคุ้มครองระหว่างจับตัวคนร้ายไม่ได้อีกต่างหาก

ถึงจะซึ้งใจแค่ไหนที่ย่าหยามาช่วย แต่ธามก็อดแขวะด้วยความน้อยใจไม่ได้ว่าเธอคงช่วยเขาในฐานะคนรู้จัก และผู้มีพระคุณที่เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมา ไม่ใช่ในฐานะอื่น ย่าหยาหน้าเสียแต่ยังตีหน้านิ่ง สวนกลับเสียงเรียบ

“เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ ไม่กี่วันมานี้ฉันเป็นคนในครอบครัวคุณ แต่วันนี้ฉันเป็นแค่คนที่คุณรู้จัก”

“ทุกวินาทีผ่านไปเหมือนสายน้ำ...เมื่อไหลผ่านไปแล้ว ก็ไม่มีวันหวนกลับ”

คำพูดของธามทำให้ย่าหยาอดนึกถึงอดีตเมื่อเจ็ดปีก่อนไม่ได้ วันที่เธอยังเป็นจันทร์ชมพูคนรักของชลธี... เขาเคยมอบนาฬิกาพกให้แล้วก็พูดประโยคเดียว กันนี้... ย่าหยาค่อยๆดึงตัวเองจากอดีต ก่อนจะตัดสินใจสารภาพบางอย่าง ธามยังเข็ดกับเรื่องโกหกครั้งก่อน เลยตั้งแง่กับความในใจของเธอ แต่นักฆ่าหน้าหวานก็ไม่สนใจ อ้าปากจะบอกรัก แต่ก็ช้ากว่าจิวที่โผล่เข้ามาขัดจังหวะแบบผิดที่ผิดเวลาอีกครั้ง

จิวเข้ามาบอกเรื่องเฉียงเป็นคนช่วยชีวิตแล้วก็เรื่องที่สืบมาได้ ว่าเล้งเป็นคนบงการเรื่องทั้งหมดที่สมาคม ธามพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะแกล้งปรามคนสนิทกระทบย่าหยาว่าให้ระวังคำพูด เพราะเจ้าสาวของเล้งยืนหัวโด่ตรงนี้ทั้งคน!

เวลาเดียวกันที่บ้านเล้ง...เฉียงสร้างเรื่องเป็นตุเป็นตะว่าจิวฆ่าสมุนอิกไม่มีเหลือก่อนจะหนีไปได้ เล้งไม่มีท่าทางติดใจสงสัย เช่นเดียวกับเรื่องของอิกที่แก้ตัวว่าเก็บธามไม่สำเร็จ เพราะมีไอ้โม่งปริศนาฝีมือดีมาขวางไว้ เล้งนิ่วหน้า เชื่อว่าไอ้โม่งต้องเป็นทรงกลด เพราะสมาชิกแก๊งเลือดใหม่คนอื่นๆไม่อยู่ในเมือง อิกพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะอาสาตามไปล้างแค้นให้ โดยมีเล้งสนับสนุนและเอารางวัลมายั่ว...ถ้าทำได้ ลื้อจะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งเขี้ยวสิงห์!

เล้งไม่รู้ว่าย่าหยาคือไอ้โม่งปริศนา จบจากเรื่องสั่งการอิกก็แวะไปหาเธอถึงฉั่วเทียนเหลา แต่กลับไม่พบ มีเพียงโบตั๋นถลามาหาด้วยความเป็นห่วงเฉียง ก่อนจะรีบกลับบ้าน เพราะอยากเห็นกับตาว่าผัวรักปลอดภัยจริงๆ

สถานการณ์ความเป็นความตายเมื่อเย็นทำให้เฉียงกับโบตั๋นรักและผูกพันกันมากขึ้น ต่างจากคู่ธามกับย่าหยาที่เต็มไปด้วยความอึดอัด เพราะนักฆ่าหน้าหวานยังไม่ได้สารภาพความในใจ เธอรอจนทำแผลถูกกระสุนเฉี่ยวให้จิวจนเสร็จ และได้อยู่ตามลำพังกับธาม จึงทำท่าจะเอ่ยปากอีกครั้ง

ธามกลัวถูกหลอกอีกเลยโพล่งตัดบท “ถ้าจะขอชีวิตเสี่ยเล้ง ฉันให้เธอไม่ได้ ถ้ามันตาย ป๊ากับม้าฉันจะมีมลทินไม่จบไม่สิ้น บรรพบุรุษตระกูลตั้งจะนอนสงบสุขได้ยังไงถ้ามันไม่มาขอขมา ฉันยอมตายดีกว่ายอมให้เธอฆ่ามัน และถ้าเธอจะฆ่ามันให้ได้ ก็ขอให้รู้ว่าฉันจะขวางสุดตัว!”

ย่าหยาส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ ก่อนจะนิ่งเงียบ รอให้เขาตั้งสติ แต่ธามกลับร้อนรนกว่าเดิม หวั่นลึกๆว่าเธอจะทำร้ายจิตใจเขาอีก แต่นักฆ่าหน้าหวานก็ทำให้เขาอึ้ง เมื่อเธอเอ่ยปาก

“คุณเคยบอกว่าคุณจะไม่ทำอะไรจนกว่าฉันจะพร้อม...”

ธามถึงกับนิ่งไปอึดใจ สับสนอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าย่าหยาจะมาไม้ไหน คำพูดประโยคนี้เขาจำได้ดี และตั้งใจจะรักษาสัญญาจนกว่าเธอจะยินยอมพร้อมใจ แล้วย่าหยาก็ทำให้เขาใจเต้นรัวด้วยคำพูดต่อมา

“ฉันพร้อมแล้ว”

แม้จะใจเต้นรัวด้วยความยินดี แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้ไม่กล้าปักใจ ย่าหยาเลยต้องอธิบายเสียงอ่อน

“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ทำให้ฉันรู้ว่าชีวิตฉันกับคุณแขวนอยู่บนเส้นด้ายเหมือนกัน ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ฉันจะทำตามใจตัวเองสักครั้งก่อนที่ฉันจะตาย...สิ่งแรกที่ฉันอยากทำคือบอกคุณว่าฉันรักคุณ”

ธามอยากจะตะโกนลั่นบ้านด้วยความดีใจ แต่ยังตีหน้ายักษ์ตามประสาคนท่ามาก ย่าหยาหน้าเสีย

แล้วขอตัวกลับดื้อๆ เพราะคิดว่าเขาคงระแวงจนไม่อยากเปิดใจ แต่ก็ต้องชะงักที่หน้าประตู เมื่อเขาตามมากอดจากด้านหลัง

“เธอจะมาไม้ไหน จะเล่นเกมอะไรฉันไม่สนใจ ขอแค่คืนนี้เธออยู่กับฉันที่นี่ก็พอ”

ย่าหยาถึงกับน้ำตาร่วงที่ได้รู้ว่าเขาก็รู้สึกไม่ต่างกัน ดีใจที่ไม่ต้องบากหน้าออกไปจากชีวิตเขาเป็นการถาวรตามที่ตั้งใจ หากว่าเขาคิดไม่ตรงกับเธอ ธามดึงตัวย่าหยากลับเข้าบ้าน และตระกองกอดจนถึงบนเตียงในห้อง

ย่าหยารู้สึกวาบหวาม แต่ยังพยายามสบตาเขานิ่ง “ถ้าพรุ่งนี้ฉันตาย ฉันก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว”

ธามโน้มตัวจูบเธอบนหน้าผากแผ่วเบา ก่อนจะสารภาพเสียงหวาน “ฉันรักเธอ”

จบคำก็ก้มลงจูบเธอทั่วหน้าอย่างทะนุถนอมและดูดดื่ม มอบสัมผัสพิเศษแสนหวานให้อย่างที่หัวใจร่ำร้องมาตลอดตั้งแต่ได้เจอหน้าเธอครั้งแรกที่สนามบิน...หรือนี่จะเป็นโชคชะตาที่ทำให้เขาได้เจอรักครั้งใหม่

ooooooo

ขณะที่สถานการณ์ความรักลึกซึ้งของธาม ย่าหยา เฉียงและโบตั๋นเป็นไปด้วยดี เล้งก็มีความสุขในจินตนาการของตัวเองเช่นกัน เพราะถึงแม้เขาจะไม่ได้เจอย่าหยาที่ฉั่วเทียนเหลา แต่ก็มีจดหมายของเธอบอกเล่าถึงสาเหตุที่หายหน้าไป ว่าเพราะไปเชิญญาติที่ภูเก็ตมางานแต่ง พร้อมกับคำมั่นสัญญาจะรอเขาไปรับเพื่อมาแต่งงาน

ค่ำคืนหอมหวานของห้าหนุ่มสาวผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว และคู่แช่มชื่นที่สุด คงหนีไม่พ้นคู่ข้าวใหม่ปลามันอย่างธามกับย่าหยา โดยเฉพาะกระทิงหนุ่มแทบไม่ยอมแยกจากเมียหมาดๆไปไหน ย่าหยาหน้าแดงด้วยความเขินที่เขาแสดงความรักแบบไม่ปิดบัง เลยอยากทำหน้าที่เมียที่ดีด้วยการจะลุกไปทำมื้อเช้าให้ แต่ธามก็ไม่ยอมให้ไป กระชับอ้อมแขนรอบร่างบางแน่น แม้เธอจะดิ้นแรงแค่ไหน เขาก็ไม่ยอมปล่อย

“จะกอดแน่นไปไหนคะ หายใจไม่ออกค่ะคุณธาม”

“อยากดื้อนักนี่ กว่าจะได้กอดได้หอม ทำเอาฉันน้ำตาตกในไปหลายหน ถึงตาฉันเอาคืนมั่งล่ะ”

จบคำก็รัดร่างบางๆของเมียหมาดๆแน่นกว่าเดิม ย่าหยาทั้งขำและอึดอัด จนต้องอ้อนแกมขู่

“ปล่อยได้แล้วคุณธาม ปล่อย...ไม่งั้นฉันกัดคุณจริงๆด้วย”

ธามอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี “เมื่อก่อนกัดโดยไม่มีการเตือน แม่เสือสาวถอดเขี้ยวเล็บแล้วใช่ไหม”

ถ้อยคำเย้าแหย่ของเขาทำให้ย่าหยาฮึดจัดการ ถองศอกเข้าสีข้างเขาอย่างแรง จนอ้อมแขนที่รัดแน่นเหมือนงูคลายออก นักฆ่าสาวรีบลุกพร้อมเอ่ยคำขอโทษ แล้วผละไปทำมื้อเช้าทันที ธามได้แต่มองตามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ทั้งขำและเอ็นดูเมียหมาดๆนัก...ในที่สุดเขาก็เจอรักครั้งใหม่ ที่จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตจริงๆสักที

เช้าวันเดียวกันที่บ้านพักเฉียง...โบตั๋นตื่นมาเพราะรอยจูบแผ่วเบาจากผัวรัก ที่มาปลุกไปกินมื้อเช้าฝีมือเขา

โบตั๋นเห็นข้าวต้มหอมฉุยตรงหน้าก็ซึ้งใจมาก “ขอบคุณนะอาเฉียง ไม่มีใครต้มข้าวต้มรอฉันมานานแล้ว นอกจากกู๋ซ้ง คุณทำให้ฉันนึกถึงกู๋ ฉันอยากให้กู๋อยู่กับฉันที่นี่ กู๋จะได้เห็นว่าวันนี้ฉันมีความสุขมากแค่ไหน”

“อีรับรู้ครับ...อีไม่ได้ไปไหน อีรักคุณก็จะวนเวียนอยู่ใกล้ๆคุณ แต่สักวันอีก็ต้องไป” โบตั๋นหน้าซีด ใจหาย เฉียงต้องปลอบ “อีต้องไปเพราะอีรู้ว่ามีคนดูแลคุณแทนอีได้ ให้อีหลับอย่างสงบเถอะครับ ผมจะทำหน้าที่นั้นแทนอีเอง ผมจะดูแลคุณจนลมหายใจสุดท้าย...ผมสัญญา”

โบตั๋นน้ำตาไหลด้วยความตื้นตันใจ สวมกอดผัวไว้ด้วยหัวใจที่อบอุ่น และมั่นใจว่าจะมีกันและกันไปจนตาย

ฝ่ายธามกับย่าหยา...มีความสุขกับทุกวินาทีที่ได้อยู่ด้วยกันจนแทบอยากหยุดเวลา โดยเฉพาะธาม อารมณ์ดีมากเป็นพิเศษที่มีคนรักคอยเอาอกเอาใจในบ้าน ไม่ต้องเหงาและเดียวดายเหมือนอย่างที่ผ่านมา ย่าหยาปลื้มใจมาก ก่อนจะชี้ชวนให้เขากินมื้อเช้าฝีมือเธอกลบเกลื่อนความเขิน

ธามไม่ทันชิมอาหารก็เอ่ยขึ้นยิ้มๆ “กับข้าวหอมจัง...แต่น้อยกว่าคน”

“นี่คุณธามหรือคะเนี่ย เมื่อวานยังตีหน้ายักษ์ พูดกระโชกโฮกฮากกับฉันอยู่เลย”

ที่จริงธามก็เขินไม่แพ้เธอ แต่อยากพูดความจริงจากใจ “ก็...สถานภาพเธอเมื่อวานนี้กับวันนี้มันต่างกันนี่ วันนี้เธอเป็นคนตระกูลตั้งโดยสมบูรณ์แล้ว ป๊าม้าฉันถือมาก ผัวเมียต้องพูดจากันดีๆ”

“กินข้าวเถอะค่ะ ถ้าไม่อร่อยห้ามตินะคะ เพราะฉันทำสุดฝีมือแล้ว”

ธามนั่งกินข้าวอย่างว่าง่าย ชมไม่หยุดปากว่าเมียฝีมือดี แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทัน เมื่อเธอบอกถึงเหตุผลที่จะไม่ไปทำงานที่ฉั่วเทียนเหลาวันนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผน นอกเหนือจากส่งจดหมายลวงเล้งว่าเธอหายไปเชิญญาติที่ภูเก็ต ธามมีสีหน้าเข้มขึ้น ย่าหยาต้องปลอบให้ใจเย็น และอธิบายว่าเธอคิดแผนนี้เพื่อจะได้อยู่กับเขา

“พอฉันรู้จากพี่โบตั๋นว่าเสี่ยเล้งจะถล่มคุณที่สมาคม ฉันก็ตัดสินใจไปช่วยคุณทันที ถ้ารอด...ฉันจะบอกคุณว่าฉันรู้สึกยังไง ถ้าคุณไม่รับฟังหรือไม่ได้รู้สึกอย่างเดียวกับฉัน ฉันก็ตั้งใจแล้วว่าจะไม่กลับมาให้คุณเห็นหน้าอีกเลย”

“ใจดำ...แต่เสียใจด้วยนะที่ฉันรับฟัง และเธอก็ต้องอยู่กับฉันไปตลอดชีวิต”

“ถ้าเรารอดและผ่านเสี่ยเล้งไปได้นะคะ”

“ต้องได้สิ...เราจะผ่านเหตุการณ์ทุกอย่างไปด้วยกัน เสี่ยเล้งมันคงเตรียมงานของมันอยู่ตอนนี้ อยากรู้จริงๆว่ามันจะทำหน้ายังไง ถ้ารู้ว่าภูเก็ตของเธอ อยู่ห่างจากบ้านมันแค่ไม่กี่ซอย!”

ooooooo

ความฝันจะได้ครองคู่กับย่าหยา ทำให้เล้งมองทุกอย่างเป็นสีชมพู ทุ่มสุดตัวให้งานแต่งงานออกมาสวยงามและหรูหราที่สุด แต่ถึงกระนั้น...อิกก็มีข่าวร้ายมาแจ้ง เรื่องทรงกลดรอดชีวิตจากแผนลอบฆ่าได้อย่างหวุดหวิด โดยมีอันมือขวาคนสนิทและคนรัก ของหยกมณีจบชีวิตแทน

ส่วนธาม...แม้จะมีความสุขที่ได้อยู่กับย่าหยา แต่งานก็ต้องมาเป็นที่หนึ่งเสมอ และเช้านี้ก็เช่นกัน ที่เขาจะไปตรวจบัญชีข้าวของคณินแทนเพื่อนรัก และอาจต้องไปภูเก็ตหลังจากนั้น เพื่อทำธุระสำคัญเรื่องเล้ง แต่ถึงจะจริงจังเรื่องงานแค่ไหน กระทิงหนุ่มก็ไม่ลืมสั่งเสียเมียหมาดๆให้ระวังตัวและอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น

ย่าหยาส่ายหน้าอ่อนใจ ตั้งแต่สถานะเปลี่ยนไป เขาก็แทบไม่ยอมให้เธอขยับไปไหน แต่ถึงกระนั้น...นักฆ่า หน้าหวานก็ปลาบปลื้มมาก แทบสำลักความสุขตาย จนเกือบลืมไปว่ายังมีภารกิจล้างแค้นเล้งต้องจัดการอีก

ธามออกจากบ้านก็ตรงไปโกดังข้าวของคณิน โดยมีฟงคอยรายงานผล แถมด้วยเรื่องสำคัญเกี่ยวกับพราวเดือนกับพันแสง สองพี่น้องที่ย่าหยาอ้างว่าคือตัวตนแท้จริงของเธอ กระทิงหนุ่มเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ถึงกับใจเต้นแรงด้วยความลุ้น ก่อนจะได้ถอนใจโล่งอก เมื่อฟงยืนยันว่าสองพี่น้องนี้มีตัวตนและทะเบียนบ้านที่ฝั่งธนฯจริงๆ

อารามดีใจทำให้ไม่สนใจเรื่องอะไรอีก และอารมณ์ดีมากพอจะไปเจอเฉียงที่ร้านกาแฟ ตามนัดในจดหมายซึ่งฮกฝากผ่านจิวมาให้ เฉียงยินดีมากที่ได้เจออดีตเจ้านายหนุ่มอีกครั้ง แล้วก็ไม่รีรอจะแจ้งเบาะแสเรื่องการขนส่งเฮโรอีน ยาเสพติดชนิดใหม่ของเล้งที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

อดีตลูกน้องเจ้านายสลายตัวหลังจากนั้นไม่นาน แต่ดันต้องมาเจอกันอีกที่ร้านขายดอกไม้ย่านปากคลองตลาด ธามนั้นแทบจะเหมากุหลาบทั้งร้าน เฉียงเลยทำท่าจะกลับด้วยสีหน้าผิดหวัง ธามหันมาเห็นก็ใจอ่อน ยอมแบ่งให้ตามที่อดีตคนสนิทต้องการ แถมทิ้งท้ายยิ้มๆ ว่าคราวหน้าให้ซื้อกุหลาบสีแดง เพราะโบตั๋นชอบ!

ด้านย่าหยา...ฆ่าเวลาด้วยการทำความสะอาดบ้าน แล้วก็สบโอกาสเข้าไปสำรวจห้องส่วนตัวของธาม ซึ่งเคยถูกเขาห้ามไม่ให้เข้าไปเพ่นพ่าน แล้วนักฆ่าหน้าหวานก็ได้ตะลึง เมื่อพบว่าภายในห้อง มีรูปถ่ายตั้งเช็งเอี๊ยง หลิวเจียหลินและชลธี พลันความคิดก็หวนสู่อดีตอีกครั้ง วันที่ชลธีพาเธอมาแนะนำกับพ่อแม่เป็นครั้งแรก

ย่าหยาหรือจันทร์ชมพูในเวลานั้นยังจำได้ดี ว่าครอบครัวชลธีดีกับเธอแค่ไหน ทั้งเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และมีน้ำใจกับเธอทุกอย่าง และไม่เคยนึกรังเกียจเด็กบ้านนอกที่มีแต่ตัวอย่างเธอเลย...ย่าหยาดึงตัวเองจากอดีต น้ำตาไหลด้วยความหดหู่ที่ตัวเองเคยอ่อนแอจนถูกเล้งใช้เป็นเครื่องมือทำลายครอบครัวชลธี...ผู้ชายที่เธอเคยรักสุดหัวใจ

“จันทร์ขอโทษนะคะป๊า ม้า พี่ธี จันทร์ไม่คิดว่าเขาจะทำกับทุกคนขนาดนี้ จันทร์ไม่ขอให้ทุกคนยกโทษให้จันทร์ แต่ขอแค่รับรู้ได้ไหมคะว่าจันทร์ไม่ได้ตั้งใจ...ได้ไหมคะ ได้โปรดรับคำขอโทษจากจันทร์ด้วย”

จบคำก็คุกเข่าก้มหน้าจนหน้าผากแตะพื้นเพื่อแสดงความเคารพอย่างที่สุด กว่าครู่ใหญ่ถึงได้ผละมา ก่อนจะเหลือบตาเห็นอัลบั้มรูปเก่าๆวางอยู่ไม่ไกลกันนั้น ภาพความทรงจำตั้งแต่เด็กจนโตของธามกับชลธีปรากฏตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มแสนอบอุ่นของตั้งเช็งเอี๊ยงและหลิวเจียหลิน ทำให้ย่าหยาอดน้ำตารื้นด้วยความรู้สึกผิดไม่ได้ แต่รูปที่ทำให้เธอถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ คงหนีไม่พ้นรูปตัวเองที่ยืนถือร่มท่ามกลางสายฝนพรำในเย็นวันหนึ่ง

ธามโผล่เข้ามาอย่างเงียบๆ พร้อมเอ่ยเสียงเข้ม ว่านั่นคือรูปของจันทร์ชมพู สีหน้าและท่าทางแข็งๆของเขาไม่ได้ทำให้เธอตกใจมากไปกว่ากลัวเขาจะโกรธที่เข้ามายุ่งวุ่นวายในห้องส่วนตัว ธามส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเราแล้วย่าหยา เธอเป็นเมียฉัน ฉันไม่มีอะไรต้องปิดบังเธอ...รูปนี้เป็นรูปที่นายธีรู้สึกประทับใจผู้หญิงคนนั้นมากที่สุด มันเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเจอกับเธอที่โรงเรียนสอนภาษาจีนได้ไม่กี่วัน”

เรื่องราวในเย็นวันนั้นถูกถ่ายทอดอย่างละเอียดลออหลังจากนั้น โดยที่ธามไม่มีโอกาสรู้เลยว่าย่าหยาก็ต้องข่มใจสักแค่ไหนไม่ให้ร้องไห้ออกมาด้วยความสะเทือนใจ เพราะรู้ดีว่าเหตุการณ์วันนั้น...แท้จริงคือแผนลวงของเธอ โดยมีเล้งอยู่เบื้องหลัง ทำให้เขาสงสารและเห็นเธอเป็นผู้หญิงอ่อนโยนและมีเมตตากับเพื่อนร่วมโลก

น้ำตาของเธอหยดลงรูปหยดแล้วหยดเล่า ธามก็ไม่สังเกตเห็น มัวฝังใจกับเรื่องความเจ็บแค้นในอดีต

“ผู้หญิงคนนั้นซ่อนความร้ายกาจไว้ใต้หน้าที่อ่อนโยน ทำเป็นเสี่ยงชีวิตช่วยคนอื่น ทั้งที่ตัวเองคอยเงื้อมีดแทงคนข้างหลังตลอดเวลา เห็นรูปแล้วเธอคง
ไม่สงสัยใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงคิดว่าเธอคือจันทร์ชมพู”

“ค่ะ...เขาเหมือนฉันมาก”

“ไม่เหมือน...ผู้หญิงคนนี้มารยาสาไถย อยู่ใกล้ใครก็เหมือนไฟที่ทำให้เขามอดไหม้ไปด้วย”

ย่าหยากลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากลำบาก “คุณธีคงรักจันทร์ชมพูมาก...และคุณธีก็คงรักคุณมาก ไม่งั้นคงไม่เล่าเรื่องส่วนตัวให้คุณฟังละเอียดอย่างนี้ มันละเอียดจนเหมือนคุณ...”

“อยู่ในเหตุการณ์ ใช่...เธอเข้าใจถูกแล้ว ฉันอยู่ในเหตุการณ์”

ย่าหยาถึงกับหูอื้อ ตัวชา ก่อนจะถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเขาเฉลยความจริงที่ปิดเป็นความลับมานาน

“เฮียธามประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิตที่อเมริกา แปะเฉินเดินทางมาบอกข่าวร้ายกับครอบครัว แต่กลับเจอเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่า ครอบครัวเราถูกใส่ร้าย ถูกเผาทั้งเป็น ตัวฉันเกือบตายแต่รอดมาได้เพราะแปะเฉิน ท่านเอาฉันไปรักษาที่อเมริกา สอนให้ฉันเป็นคนใหม่ ให้ฉันสวมชื่อเป็นเฮียธามเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่ความจริงก็คือความจริง เธอเป็นคนในครอบครัวฉันแล้ว ฉันไม่มีอะไรต้องปิดเธอ...ฉันคือชลธี!”

ย่าหยาถึงกับช็อก แต่ธามกลับไม่ติดใจอะไร แถมพาเธอย้อนอดีตด้วยการหยิบปืนพกกระบอกเดียวกับที่เธอเคยใช้ยิงเขาที่บ้านพักริมทะเลเมื่อเจ็ดปีก่อน มาให้ดูเต็มๆตา “เสี่ยเล้งกับตำรวจตามหาปืนกระบอกนี้ เพราะมันสาวไปถึงคนบงการได้ แต่ไม่มีใครตามเจอ เพราะปืนมันอยู่กับฉัน...ผู้หญิงคนนั้นยิงฉันด้วยปืนกระบอกนี้”

ภาพเหตุการณ์วันนั้นผุดขึ้นในหัวย่าหยาอีกครั้ง น้ำตาพานไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอรู้ว่าเขาต้องเจ็บปวดแค่ไหนที่ถูกหักหลัง แต่ที่ไม่คาดคิดมาก่อนคือต้องมาเจอเขาอีกครั้งในสถานการณ์แบบนี้

“ฉันไม่รู้ว่าจิตใจผู้หญิงคนนั้นทำด้วยอะไร ยิงฉันทั้งที่ฉันเพิ่งสวมแหวนแต่งงานให้เขาได้ไม่กี่ชั่วโมง ฉันอยากเจอเขา อยากจัดการให้สาสมกับที่เขาทำกับฉัน แต่เขาก็ตายไปแล้ว ทิ้งความทรงจำ ความเจ็บปวดไว้กับฉันคนเดียว”

ใบหน้าเข้มจัด เต็มไปด้วยความปวดร้าวของธาม ทำให้ย่าหยาต้องโถมตัวไปกอดปลอบ

“คุณจะไม่เจ็บปวดคนเดียวคุณธาม ผู้หญิงคนนั้นก็ต้องชดใช้ให้คุณ!”

ooooooo

ซีรีส์เลือดมังกร : กระทิง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด